ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.98 ทรงตัวรอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง ตลาดรอตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้
InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.98 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากเปิด ดตลาดเมื่อเช้านี้ที่ระดับ 36.96 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทแกว่งออกข้าง เคลื่อนไหวในกรอบ 36.91-37.02 บาท/ ดอลลาร์ ด้านสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม ตลาดรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ คืนนี้ นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 36.85 - 37.10 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 149.05 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 148.56 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ 1.0552 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0540 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,438.45 จุด ลดลง 14.10 จุด (-0.97%) มูลค่าซื้อขาย 40,921.64 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,763.41 ลบ.(SET+MAI) - ม.หอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนช่วงเทศกาลกินเจ คาดเทศกาลกินเจในปี 66 จะมีเงินสะพัด หรือมูลค่าการใช้จ่ายโดยรวมราว 44,558 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อน 5.5% ที่มีเงินสะพัดราว 42,235 ล้านบาท โดยมี มูลค่าการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 4,587.17 บาท - Krungthai COMPASS คาดว่า อัตราเงินเฟ้อปีนี้มีแนวโน้มอยู่ที่ 1.5% ส่วนหนึ่งจากราคาพลังงานที่ปรับลดลงตามนโยบาย ของภาครัฐ ทั้งการปรับลดค่ากระแสไฟฟ้าลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ในรอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. 66 และนโยบายตรึงราคาน้ำมันดีเซล ให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคที่อยู่ในระดับสูง โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2565 ภาระค่าครองชีพของผู้ บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาจากราคาหมวดพลังงานประมาณ 45% - ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 112.14 ปรับ ลง 20.6% จากเดือนก่อนหน้ากลับมาอยู่ในเกณฑ์ ทรงตัว โดยนักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เป็นปัจจัยหนุนความ เชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และคาดหวังการไหลเข้าของเงินทุน ในขณะที่ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลง ทุนมากที่สุด ได้แก่ การไหลออกของเงินทุนรองลงมาคือการถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศและสถานการณ์การเมืองในประเทศ - โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัวขึ้น 1.25-1.5% ในปี 67 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์การเติบ โตทางเศรษฐกิจของปีนี้ถึงสองเท่า โดยโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัวขึ้นเพียง 0.5% ในปีนี้ - กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า อุปสงค์ด้านการบริการที่แข็งแกร่งและความคืบหน้าใน การปรับลดเงินเฟ้อได้ช่วยเพิ่มโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ แต่ความเสี่ยงด้านการเงินและการคลังยังคงมีอยู่ - ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโกกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐนิวยอร์ก ว่า เฟดอาจไม่จำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก เมื่อพิจารณาจากนโยบายการเงินของเฟดที่อยู่ในระดับที่คุมเข้มแล้วและกระบวนการ ฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% นั้นมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก ตลอดจนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา - นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ (6 ต.ค.) เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest